การลงโปรแกรมoppp2554

การลงโปรแกรมoppp2554

ขั้นตอนที่ 1 เปิด mysql query browser ขึ้นมา
start >>>programs>>>mysql-jhcis>>>mysql query browser จากนั้นไปที่เมนูfile เลือก open script
ก็ให้เลือกไปหาที่ที่คุณเก็บไฟล์oppp 2554.sqlไว้ แล้วก็open fileนี้ขึ้นมา เสร็จแล้วก็กดที่ปุ๋มสายฟ้าสีเขียวexcute
รอจนกว่ามันจะสร้างตารางครบ100% เสร็จแล้วก็ออกจาก mysql query browser ไป

ขั้นตอนที่ 2 ไปที่file setup.exe คลิ๊ก next install next nextไปตามที่มันบอกนะครับ ไปจนกว่าfinish
ขั้นตอนที่คลิ๊กที่ shortcut oppp2554 มันจะมีกล่องข้อความฟ้องว่า error ให้ไปเปลี่ยนที่ port เป็น3333และเปลี่ยนpassword เป็น123456 จากนั้นก็คลิ๊กที่ปุ่มทดสอบ (แล้วจะบอกว่าไม่เชื่อมต่อได้) แล้วก็คลิ๊กที่บันทึก มันก็จะปิดโปรแกรมออกมา

ขั้นตอนสุดท้าย เปิดโปรแกรม Oppp2554 ตั้งค่าหน่วยบริการ พิมพ์รหัสสอ.ใส่เข้าไป xxxxx จากนั้นก็คลิ๊กที่ค้นหา แล้วกดบันทึกเป็นอันจบการลงโปรแกรม oppp2554

เรียนรู้แบบ SALT

ปลายเดือนตุลาที่ผ่านมาพวกเราชาวสาธารณสุขอำเภอเมืองลำปาง ได้มีโอกาสมาเรียนรู้การสร้างภาคีเครือข่ายของชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้รูปแบบของ SALT ในการเรียนรู้ ก่อนการเรียนรู้อาจารย์ถามว่า SALT คืออะไร หมอจำรัสตอบว่า SALT คือ เกลือครับ เค็มแต่ดี หมอชัชชัยตอบว่า SALT คือ ซ้อเล็ก ซ้อใหญ่ครับ หมอหนุ่ยตอบว่า SALT คือ ชื่อของภาพยนต์ฝรั่งชื่อไทยว่า "สวยสังหาร" ที่นำแสดงโดย แองเจลีนา โจลี่ ครับ ทุกคนต่างตอบใกล้เคียงกับความเป็นจริงของตัวเองมาก หัวใจสำคัญของ SALT คือ การมองแต่สิ่งที่ดี มองในมุมบวก อย่ามองถึงปัญหา ให้มองปัญหาเป็นโอกาส ด้วยการชื่นชม ถ่ายทอด และสนับสนุน

S= Suport
A= Appreciete
L= Lift
T=Transfer/Tream
แปลเองนะครับ

วันแรกเรามาศึกษาเรียนรู้ที่บ้านแม่ทา ถ้าบอกว่าบ้านแม่ทา ทุกคนต้องเข้าใจว่าอยู่ในอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน แต่บ้านแม่ทาที่พูดถึงอยู่ในอำเภอแม่ออน ที่ได้แยกมาจากอำเภอสันกำแพงจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับการเดินทางผ่านทางลำพูนจะสะดวกกว่า เข้าทางกัซซัน รีสอร์ทดังแถวนั้น ถ้าเดินทางจากอำเภอสันกำแพงเชียงใหม่ ระยะทางใกล้แต่ทางคดเคี้ยว ขึ้นเขา ลงเขา ใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า จากสภาพทางภูมิศาสตร์ ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชันเป็นแนวกั้นระหว่างจังหวัดลำปาง ลำพูน และกั้นระหว่างอำเภอสันกำแพงและอำเภอแม่ทา ทำให้บ้านแม่ทาอยู่เขตรอยต่อระหว่างลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เดินทางไม่ถึง 3 กม.ก็ถึงอำเภอแม่ทา เดินทาง 90 กม.ถึงอำเภอสันกำแพงทั้งๆที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ประชาชนต้องมาใช้บริการแทบทุกอย่างที่จังหวัดลำพูน รวมถึงการเจ็บป่วยต้องมารับการรักษาที่ รพ.แม่ทา ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการใช้สิทธิข้ามจังหวัด ประชาชนที่นี่จึงรู้สึกถูกทอดทิ้งจากหน่วยงานของทางราชการในจังหวัด เป็นชนชายขอบที่ทุกฝ่ายมองไม่เห็น ประชาชนที่นี่จึงได้ผลักดัน สถานีอนามัยในตำบลให้มีศักยภาพในการให้บริการแก่ประชาชนมากขึ้น องค์กร NGO เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างแนวความคิดให้กับประชาชนให้เกิดความเข้มแข็ง ด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนได้เกิดการเรียนรู้ คิดเป็น ทำเป็น

จากสภาพภูมิศาสตร์ที่ล้อมรอบด้วยป่าเขาแต่ไม่สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เนื่องจาก ทางรัฐได้มีการสัมประทานป่าไม้ ทำให้ส่งผลต่อแหล่งน้ำที่ประชาชนเคยมีใช้ตลอดปีกลับไม่เพียงพอในการทำการเกษตร หลังจากหมดสัญญาในการสัมประทานป่าไม้ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกัน ร่วมอนุรักษ์ป่าไม้ ทำให้มีน้ำใช้อย่างอย่างเพียงพอ ด้วยระบบประปาภูเขา สามารถทำการเกษตรได้ตลอดปี เนื่องจากสภาพทางเศรษฐกิจชาวบ้านต้องเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้นด้วยการใช้สารเคมี ทั้งปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำ สัตว์น้ำเริ่มตาย คนเจ็บป่วยจากการใช้สารเคมีมากขึ้น จนทำให้ให้ชาวบ้านมองเห็นถึงปัญหา และผลกระทบที่ตามมา จึงได้มีการรวมตัวกันหันมาใช้วิธีการแบบเกษตรอินทรีย์ หันมาใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ จากซากพืช ซากสัตว์ ปลุกพืชแบบผสมผสาน ให้มีความหลากหลาย ปลุกพืชตามฤดูกาล ไม่ทำลายแมลงหรือสัตว์ที่ทำลายแมลงศัตรูพืช ล้มลุกคลุกคลานมาหลายปี ท้อแต่ไม่ยอมถอย ได้ศึกษาดูงานจากที่ต่างๆทั่วประเทศ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ของตนเอง จนพืชผลเจริญงอกงามมีพ่อค้าจากต่างประทศมารับซื้อผลผลิตจนไม่เพียงพอกับความต้องการ โดยใช้เทคนิคง่ายๆคือการลดต้นทุนในการผลิตด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้เกิดแนวคิดหลักในเรื่องความปลอดภัยในการบริโภค ด้วยการเป็นผู้ผลิตอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารปนเปื้อน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

จากการเรียนรู้แบบลองผิด ลองถูก ได้สั่งสมประสบการณ์การเรียนรู้ก่อให้เกิดแนวความคิดแบบองค์รวม และรู้ว่าวิถีชีวิตส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร ทำให้เกิดสถาบันพัฒนาทรัพยากรและเกษตรแบบยั่งยืน สถาบันแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของชุมชน เกิดจากแนวคิดของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีสหกรณ์เป็นกลไกสำคัญที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท มาช่วยเหลือสมาชิกในชุมชน เปิดโอกาสให้ลูกหลานกลับเข้ามาทำงานในหมู่บ้าน ทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่น ผู้สูงอายุได้รับการเลี้ยงดูจากลูกหลาน โดยมีเยาวชนรุ่นแรกที่เข้ามาพัฒนาบ้านเกิดรุ่นแรกๆ หนึ่งในนั้นก็คือนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคนปัจจุบัน ที่ได้ทุ่มเทพลังกายและพลังใจ ร่วมพัฒนา จนเป็นที่ยอมรับของคนในชุมชน ด้วยการใช้ชีวิตแบบพอเพียง สมถะ ถ้าดูการแต่งกายก็ไม่รู้ว่าเป็นนากยก

กล่าวถึงสถาบันพัฒนาทรัพยากรและเกษตรยั่งยืน ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนภาคีเครือข่ายในชุมชน โดยภาคส่วนต่างๆมาร่วมเป็นคณะกรรมการทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ตำแหน่งต่างๆในชุมชนเช่น นากยก อบต.ต้องผ่านการพิจารณาจากสถาบันก่อนที่จะส่งสมัครเพื่อรับการเลือกตั้ง เมื่อผ่านความเห็นชอบจากสถาบันแล้วมักได้รับการเลือกตั้งทุกครั้ง เช่นเดียวกับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้นำสูงสุดของสถาบัน มีตำแหน่งเรียกว่าผู้อำนายการสถาบันฯ โดยวันนี้มีรองผู้อำนวยการสถาบัน และท่านนากยก อบต.มาถ่ายทอดสิ่งที่พวกเราอยากมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยนายกกล่าวว่า สถาบันฯเปรียบเทียบกับถ้วยกาแฟ และช้อน ที่มีหน้าที่คนกลุ่มต่างๆภาคีต่างๆในชุมชน ที่เปรียบเสมือนกาแฟ น้ำตาล และคอฟฟี่เมต ให้กลมกล่อม กิจกรรมหรือโครงการต่างๆในชุมชนไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าภาพหลัก สถาบันต้องร่วมรับผิดชอบทุกกิจกรรม เป็นตัวขับเคลื่อนให้กิจกรรมทุกอย่างบรรลุผลสำเร็จด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ "สุขภาวะ" ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน

สถานีวิทยุชุมชนเป็นสื่อสำคัญในการกระจายข่าวสารให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เกิดขึ้นจากการระดมทุนจากชาวบ้าน นักจัดรายการวิทยุทั้งหมดมาจากทุกภาคส่วนในตำบลที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน มาถ่ายทอดข่าวสาร สาระที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน โดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ โดยชาวบ้านไม่รู้สึกหงุดหงิดหรือรำคาญเหมือนเสียงตามสาย ทุกคนยินดีรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้วยความเต็มใจ ทั่วถึง ไม่ว่าจะสอบถามกับใคร ชาวบ้านก็จะได้รับทราบข้อมูลตรงกัน

หมอศุภเดชได้สอบถามกับท่านรองผู้อำนวยการสถาบันฯว่า "ท่านมีวิธีการใดในการกำจัดหอยเชอร๊่ที่ระบาดในนาข้าวในเขตรับผิดชอบของตนเอง" ท่านรองผู้อำนวยการสถาบันกล่าวว่า " เราอย่ามองว่าหอยเชอรี่เป็นศัตรู อะไรก็ตามที่เรามองว่าเป็นศัตรูเราจะพยายามฆ่า พยามยามกำจัดทำลาย ให้เรามองว่าเราจะหาประโยชน์จากหอยเชอรี่อย่างไร โดยถ้าเราคิดดีๆหอยเชอรี่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะนำมาต้มยำก็อร่อย นำมาหมักเป็นปุ๋ย บำรุงพืช บำรุงดินได้อย่างดีเยี่ยม ที่นี่รับซื้อไม่อั้น " จะเห็นได้ว่าคนที่นี่มีหลักแนวคิด มีปรัชญาในการดำรงชีวิต แนวคิดดีๆส่งผลให้เกิดการกระทำที่ดีๆตามมา โดยมีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นเวทีในการถ่ายทอดทุกอย่างทั้งแนวคิด อุดมการณ์ ถึงแม้ความคิดจะแตกแยก แต่เมื่อผ่านเวที่ ให้เปิดอก เปิดใจ ความคิดที่แตกแยกดังกล่าวกลายเป็นความแตกฉาน เกิดความรู้ใหม่ๆ เป็นนวัตกรรมหลายๆอย่างในชุมชน ส่งผลให้ที่นี่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น ที่ผมไม่สามารถจะบรรยายหรือพรรณราเป็นถ้อยคำหรือคำพูดได้ แต่เป็นความรู้สึกที่รับรู้ด้วยใจ เล่าสามวันสามคืนไม่จบ สุดยอดมากครับ เสียดายผมไม่ได้นำกล้องไปด้วยเลยไม่ได้นำภาพมาฝาก

ชีวิตต่างกันที่ความคิด

เกิดเป็นคนทั้งที ทำไมชีวิตมันช่างยุ่งยากเสียเหลือเกิน รู้อย่างนี้เกิดเป็นไส้เดือนดีกว่า เบ็ดเสร็จในตัวเองหมด (ไส้เดือนมี 2 เพศ ในตัวมันเอง) ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพระอริยสงฆ์ ถึงได้บำเพ็ญบุญเพื่อไม่ให้กลับมาเวียนว่ายตายเกิด ในชีวิตมนุษย์อีก ที่มันยุ่งยาก วุ่นวาย ก็เพราะอะไรละเพราะตัวเราเองทั้งนั้น

คนเรามักชอบวุ่นวายกับตัวเองยังไม่พอเสือกไปวุ่นวายกับชีวิตคนอื่นอีก มักอยากให้คนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ แต่นับว่าโชคดีมากที่คนอื่นไม่เปลี่ยนตามอย่างที่เราต้องการ เพราะถ้าคนอื่นเปลี่ยนอย่างที่เราต้องการ คนอื่นก็คงดิบดีกันหมด ยกเว้นตัวเราคนเดียว มีหลายคนบ่นเรื่องของเพื่อนร่วมงานว่าคนนี้ขี้เกียจ มาทำงานสายแทนที่จะรีบทำงานยังมานั่งกินกาแฟอีก ชอบหลบไม่ค่อยทำงาน เวลามีงานส่วนรวมมาให้ทำก็ปล่อยให้เราทำคนเดียว เวลาหัวหน้าไม่อยู่ มันก็แอบกลับก่อนเวลา พวกนี้มันเห็นแก่ตัวชัดๆ ถ้าใครเจอปัญหาแบบนี้ก็คงหนักอกหนักใจ เราลองมาเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ และกลับถามตนเองว่าที่เราทำงานคนเดียว มาก่อนกลับช้า เราดีกว่าเขาเราเป็นคนดีไหม? เพราะอะไรหรือที่คิดว่าเราเป็นคนดี ที่เราเป็นคนดีได้เพราะเราอยู่ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดี และถามตนเองอีกว่าเราอยากทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่ดีกว่าเราไหม? ทุกคน

ก็อยากได้ แต่ถ้าเราได้เพื่อนร่วมงานที่ดีกว่าเราหมดแสดงว่าหน่วย

งานของเรามีคนที่ไม่ดีที่สุดคือเราเอง จริงไหม?

การที่เรามีเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดี จะทำให้เราดูดีขึ้น

การที่เรามีเพื่อนร่วมงานที่ไม่เก่ง จะทำให้เราดูเก่งขึ้น
ถ้าเราคิดไม่เป็น เราจะรังเกียจเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดี ขี้เกียจ เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ แต่ถ้าเราคิดเป็น เราจะไม่รังเกียจคนพวกนี้ เพราะมีคนพวกนี้จึงทำให้เราดูดีขึ้น และมีค่ามากขึ้น

คนเราส่วนใหญ่ในโลกนี้ดำเนินชีวิตโดยไม่ได้คิดอยู่ไปวันๆตามความรู้สึก ส่วนใหญ่มักจะทำในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ เช่น ขณะที่เรากำลังขับรถอยู่ มีคนมาบีบแตรรถไล่หลังเรา เราชอบไหม? ทุกคนต้องตอบว่าไม่ชอบ และถามกลับว่า ตัวเราเองเคยบีบแตรใส่หลังรถคนอื่นหรือเปล่า ทุกคนที่ขับรถต้องเคย และตอบว่าก็ต้องบีบแตรไล่นะสิเพราะมันขับช้า แถมยังขับคร่อมเลนอีกต่างหาก ถ้าไม่บีบแตรแล้วรถที่ซื้อมามีแตรเอาไว้ทำไม?

เราลองมาคิดดูว่าที่เราบีบแตรใส่รถคันอื่นเพราะอะไร และที่เขาบีบแตรใส่หลังเราเพราะอะไร ก็คงเหตุผลเดียวกันกับเรา เราลองมาคิดใหม่ดูว่าการที่เขาบีบแตรใส่เราแสดงว่าเรากำลังทำผิด หรือขับไม่มีมารยาท ถ้าเขาบีบแตรใส่เราแล้วเขาขับแซงขึ้นไป เราควรลดกระจกลงและยิ้มให้เขาและกล่าวขอบคุณที่ช่วยเตือนเราไม่ให้ขับรถผิดกฏจราจร อารมณ์ของเราก็จะเย็นลงใช้ถนนร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่คนเรามักจะเป็นกันคือมีความลำเอียง 2 มาตรฐาน แสดงว่าการที่คนเรามี 2 มาตรฐานเป็นกันทุกคน ไม่ต้องกล่าวโทษคนอื่นว่ามี 2 มาตรฐาน ยกตัวอย่างเช่น หมาเรากัดกับหมาข้างบ้านเราจะตีหมาตัวไหน ต้องตอบว่าตีหมาข้างบ้าน หมาที่เราเลี้ยงกัดลูกเรา เราตีจะตีใคร ก็ตีหมานะซิ เวลาเราไปซื้อเสื้อผ้าก็จะไปลองเสื้อผ้าที่ห้องลอง พอใส่ไม่ได้ก็บอกว่าเสื้อตัวเล็กไป แต่ทำไมไม่โทษตัวเองว่าเราตัวใหญ่ขึ้น ถ้าเสื้อมันพูดได้มันก็จะเถียงว่า "อย่ามาโทษกูว่ากูตัวเล็ก มึงนั้นแหละที่ใหญ่ ตัวยังกับพะยูน แทนที่จะหยิบ XXL เสือกมาหยิบเบอร์ S แล้วมาว่ากูตัวเล็ก" นี่แหละคน เวลาทำผิดมักไม่เคยโทษตัวเองเลย

คนเราทุกคนมีเวลาในหนึ่งวัน 24 ชั่วโมงเหมือนกันแต่เสียดายเวลา 24 ชั่วโมงเหลือเกินที่เรามักเสียเวลา คิดแต่เรื่องของคนอื่นตลอดเวลา ทำไมเราไม่เอาเวลามาคิดพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเรา ชีวิตของเราน่าจะดีกว่านี้ มีความสุขกว่านี้ แต่ช่างมันที่ผ่านมาปล่อยให้มันผ่านไป เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ แต่เวลาที่เหลืออยู่ต่อนี้ไปเราสามารถกำหนดชะตาชีวิตของเราเองให้ดำเนินชีวิตไปอย่างถูกต้องและมีความสุขได้ ถ้าเราเปลี่ยน เปลี่ยนความคิด และทำ ชีวิตเปลี่ยนแน่นอน


มีชายคนหนึ่งถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเพราะฆ่าภรรยาตนเอง สาเหตุที่ฆ่าภรรยาเพราะภรรยามีชู้ ถ้าคนที่คิดเป็นเมื่อรู้ว่าภรรยามีชู้ก็จะบอกเลิกแถมข้าวสารอีกคนละกระสอบ และหาเมียใหม่ที่ดีกว่า แต่ที่ต้องติดคุกเพราะยอมให้ชู้และเมียเลวๆมากำหนดชะตาชีวิตของตนเอง ที่ทำให้บรรดาลโทษะ และฆ่าภรรยา ตัวเองต้องมาติดคุกตลอดชีวิต ฉะนั้นเราไม่ควรให้คนเลวๆมากำหนดพฤติกรรมของเรา

"คิดให้เป็น ชีวิตเย็นสบาย"

เรียบเรียงโดย สมานะ

ขอขอบคุณหนังสือ ฮาสุดขีด อาจารย์ พิพิธ พุ่มแก้ว เขียนโดย สมคิด ลวางกูร ที่ทำให้คิดเป็น

รายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมการจัดทำข้อมูลรายบุคคล

รายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมผู้รับผิดชอบการจัดทำข้อมูลรายบุคคล
สสอ.เมืองลำปาง(วันที่ 10 กันยายน 2553)
ณ ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลำปาง
ที่	ชื่อ	สกุล	สถานที่ปฏิบัติงาน	หมายเหตุ
1	นายสุวรรณ	วงศ์สุวรรณ	โทกหัวช้าง
2	นายภูษิต	จำเริญขจรสุข	บ้านฟ่อน
3	นางมยุรีย์	จันทรือินตา	ศรีหมวดเกล้า
4	นางณัฐกานต์	ขันนาแล	กล้วยแพะ
5	นายจำรัส	ชุมแก้ว	กล้วยม่วง
6	นายไกรศร	วงศ์ธิดา	บ้านกาด
7	นายชัย	ท่นไชย	แม่กืย
8	นางศิริลักษณ์	รัตนดวง	สบมาย
9	นางผ่องพรรณ	คำตุ้ยเครือ	จำค่า
10	นายถาวร	ใจยศ	ทรายทอง
11	นายธีรยุทธ	โพธิสุข	เสด็จ
12	นางสาว ศิริวรรณ	ใจวงค์ษา	ต้นมื่น
13	นางบุษรากรน์	มณีวรรณ	ท่าโทก
14	นายสมศักดิ์	เตชะอุ่น	บ้านเอื้อม
15	นายสยาม	เรนทอน	สบเฟือง
16	นางวรัญญา	สุขเจริญ	ทุ่งกล้วย
17	นางนวลจันทร์	สิงห์เชื้อ	ทุ่งม่านเหนือ
18	นางรัตนาภรณ์	วงภูธร	รัตนานุรักษ์
19	นางสาวยุพา	ฟูชื่น	ค่าหลวง
20	นายธัชชัย	โสภะ	ท่าขัว
21	นางสาวขนิษฐา	โสวรรณะ	ม่วงแงว
22	นางสิมาภรณ์	เย็นสำราญ	ต้นธงชัน
23	นายไพฑูรย์	เศรษฐพันธ์	ใหม่จำบอน
25	นางกัญญาณัฐ	ปินตาสาย	หัววัง
26	นางประนอม	ใจยศ	สบไพร
27	นางสาวปนัดดา	ฟูใจ	นิคมฯ 16
28	นางปาริชาต	โลหะกิจ	สสอ.เมือง

เรื่องเล่าจากอุบล

สวัสดีครับพี่น้องสาธารณสุขทุกท่าน วันนี้ขอนำบรรยกาศการไปประชุมวิชาการชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยที่จังหวัดอุบลราชธานีมาเล่าสู่กันฟัง ทางคณะของเราร่วมกว่า 50 ชีวิตได้ออกเดินทางจากจังหวัดลำปางเช้ามืดวันที่ 25 สิงหาคม 53 เนื่องจากระยะทางจากลำปางถึงอุบลระยะทาง 845 กม.ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 18 ชั่วโมง การเดินทางครั้งนี้อาจมีอุปสรรคบ้างเนื่องจากฝนได้ตกตลอดการเดินทาง เพราะเป็นช่วงมรสุมพอดี แต่ก็ได้บรรยากาศอบอุ่นอีกแบบหนึ่ง เพราะแต่ละคนใช้เวลาว่างที่อยู่บนรถให้เป็นประโยชน์อยู่แล้ว บางคนก็ถือโอกาสด้วยการนอนหลับ บางคนก็เล่าเรื่องคนอื่นเพราะความคิดถึง บางคนก็แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องวิธีการทำงานซึ่งกันและกัน บางคนก็หารายได้พิเศษเพื่อนำเงินไปลงทะเบียนและของฝาก บางคนก็ร้องเพลง มีหลายสิ่งหลายอย่าง ทุกๆอิริยาบท มีหลากหลายให้สัมผัส เพื่อให้ได้อรรถรถต้องมาสัมผัสเอง

ในปีนี้ทางจังหวัดอุบลราชธานีเป็นเจ้าภาพในการประชุม จัดประชุมที่โรงยิมเนเซี่ยม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จุคนได้สองพันกว่าคน มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากทุกจังหวัดทั่วประเทศมาร่วมประชุมในครั้งนี้ มีการมอบรางวัล สสอ.ดีเด่นได้แก่ สสอ.ประทาย จังหวัดนครราชสีมา สอ.ดีเด่นได้แก่ สอ.ตลาดจินดา จังหวัดนครปฐม มีการมอบรางวัลดีเด่นโดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หลังจากนั้นท่านได้มอบนโยบายและขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน ท่านบอกว่าตำแหน่งหัวหน้า สอ.ตุลาคมนี้ตำแหน่งเปลี่ยนเป็น ผอ.ทั้งหมด สอ.เปลี่ยนชื่อเป็น รพ.สต.ทุกแห่ง สำหรับ พรบ.วิชาชีพของพวกเรา ท่านบอกว่าได้นำเข้าสภาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 53 เรียบร้อยแล้ว และจะช่วยผลักดันให้ ถ้าผ่านพวกเราก็เตียมเฮได้เลยเพราะในครั้งนี้ถือว่าใกล้เคียงความจริงมากที่สุด

สำหรับบรรยากาศภายในงานมีการจัดบูธนำเสนอนวัตกรรม ของตนเอง ยอมรับจริงๆเลยว่าเรื่องงานแล้วพี่น้องสาธารณสุขเราไม่น้อยหน้าใคร มีสินค้าราคาถูกมาจำหน่ายมากมาย ทั้งเสื้อจากชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย จากสมาคมหมออนามัย จากกระทรวงสาธารณสุขเสื้อยืดราคาเพียง 199 บาท หลายคนซื้อมาฝากเพื่อนร่วมงานในหน่วยงาน พี่สมบูรณ์ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนประเทศเพื่อบ้านได้ซื้อบูราบุกมาให้ภรรยาเพื่อนำมาออกกำลังกาย 1 อัน (ที่จริงเขาเรียกว่าฮูลาฮุบ แต่แกเรียกว่าบูราบุก ฮาๆๆๆ) แต่คนที่มีความสุขที่สุดในงานนี้คือพี่ไกรศรเพราะมีขวัญใจไปด้วย ปลายปีนี้พี่น้องเราเตรียมรับซองสีชมพูได้เลย พี่ยุทธศักดิ์จึงซื้อสูทมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พี่พรทิพย์บอกว่ามาครั้งนี้ได้กำไร ได้ท่องเที่ยวหลายแห่ง ได้เรียนรู้วิถีชีวิตขนบธรรมเนียมประเพณีของคนอีสานมากขึ้นเพราะพี่แกมีน้องสะใภ้เป็นคนอีสาน สำหรับพี่กิตติบอกว่าสาวๆอีสานน่ารักเลยนำภาพน้องๆมาฝาก พี่ศักรินทร์ห้ามอิจฉา เพราะนานๆทีแกมีโอกาสดีๆแบบนี้สักที สุดท้ายนี้เรานำภาพมาให้ท่านทายว่าใครเอ่ยท่อนบนสวมเสื้อเชิร์ท สวมเสื้ออย่างเรียบร้อยแต่สวมรองเท้าตราปูไปเที่ยวต่างประเทศมาแล้ว ส่งคำตอบมาที่คุณสมบูรณ์ถ้าตอบถูกรับรางวัลที่หมอสมบูรณ์ได้เลย

ขากลับฝนได้ตกตั้งแต่เช้าเพราะคงไม่อยากให้พวกเรากลับ อยากให้พวกเราอยู่อุบลต่อ แต่เป็นเพราะภาระและหน้าที่ที่ต้องทำงานต่อพวกเราต้องกลับ ปรากฎว่าน้ำท่วมในตัวเมืองอุบลน้ำท่วมสูงเกือบครึ่งล้อ รถที่ผมนั่งอยู่ดับกลางน้ำสตาร์ทไม่ติด นึกว่ารถมีปัญหาแน่แต่เมื่อพักสักครู่รถก็สตาร์ทติดและเดินทางต่อด้วยความโล่งอกของทุกคน และพวกเราก็ถึงบ้านด้วยสวัสดิภาพกลับถึงลำปางเวลาประมาณตีสี่กว่าๆ

สวัสดีครับ

การดาวน์โหลดจาก 4 Shared

อุ๊ยตายใครหน้าเหลี่ยมๆ!!!!!!!!!!

เนื่องจากมีบางไฟล์ที่ไม่สามารถดาวน์โหลดจากเว็ปไซด์ได้ โดยเฉพาะไฟล์ที่มีนามสกุล .Zip.rar .ppt. หรือโปรแกรมต่างๆ ต้องเข้ามาดาวน์โหลดกับเว็ปไซด์ที่เขาบริการรับฝากไฟล์เป็นแบบไม่เสียตังค์ โดยเฉพาะใครที่ต้องการส่งไฟล์มากกว่า 10 เมกะบิท เสียใจด้วยที่ไม่สามารถส่งทางอีเมล์ได้เราสามารถนำไปฝากไฟล์ไว้แล้วให้เพื่อนเราเข้าไปดาวน์โหลดได้สบายๆ ก็สะดวกดีเหมือนกันใครสนใจทดลองทำดูบ้างก็โพสเข้ามาว่างๆจะเขียนขั้นตอนการสมัครและการใช้ให้ สำหรับการดาวน์โหลดไฟล์ของเราให้ทำตามขั้นตอนดังนี้(ต้องมีขั้นตอนหน่อยเพราะมันฟรี ถ้าแบบเสียตังค์จะสะดวกกว่านี้เยอะปีหนึ๋งประมาณ 10$ ฝากได้ครั้งละ 100 G ถ้าฟรี 10 G)

ภาพที่ 1

1. เมื่อคลิกไฟล์ที่ต้องการดาวน์โหลดแล้วจะมีหน้าจอขึ้นดังภาพที่ 1 ให้คลิกดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

ภาพที่ 2

2.หลังจากนั้นรอสักครู่ใจเย็นๆ รอให้นับถอยหลังให้ครบ 20 ถึงจะทำขั้นตอนต่อไปดังภาพที่ 2

ภาพที่3

3.เมื่อนับถอยหลังครบ 20 ก็จะมีหน้าจอขึ้นดังภาพที่ 3 ให้คลิกดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้อีกที

ภาพที่ 4

4.หลังจากท่านคลิกดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้เสร็จก็จะโผล่่หน้าจอแบบภาพที่ 4 ขึ้นมาให้ท่านเลือก Save หรือ Open เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ฮีโร่วันแม่

ตื่นเช้าวันแม่ปีนี้ได้รับข่าวดีว่าน้องฮีโร่คลอดแล้วร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ หลายคนติดตามข่าวคงทราบดีว่าแม่ของน้องฮีโร่คือคุณธิติมา ยุราวรรณ ได้สร้างวีรกรรมติดตามคนร้ายลักขโมยรถยนต์ และแจ้งตำรวจตามจับคนร้ายได้ทั้งที่ตัวเองท้องแก่ได้ 9 เดือน เป็นวีรกรรมที่ทุกคนต้องยกย่อง เป็นคนไทยที่มีคุณภาพที่น่ายกย่องคนหนึ่ง จนสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้ตรัสชื่นชมถึงความกล้าหาญและได้พระราชทานดอกไม้และให้กำลังใจ เป็นที่ปลื้มปิติยินดีแก่ครอบครัวของคุณธิติมา ตลอดจนถึงคนไทยทั้งชาติที่ได้ทราบข่าว นับเป็นเกียรติคุณอย่างสูง สมควรได้รับการยกย่องและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมไทย เพราะนับวันสังคมไทยยิ่งขาดส่วนนี้ไป อยากให้กลับเป็นสังคมแห่งการมีน้ำใจดังเดิม น้องฮีโร่ได้คลอดตรงกับวันแม่แห่งชาติพอดี คือวันที่ 12 สิงหาคม 2553 เวลา 09.20 น. น้ำหนัก 2,738 กรัม ชื่อ ด.ช.สิรวิชย์ วิจิตราการลิขิต ชื่อเล่นว่าน้องฮีโร่

น้องอีกคนหนึ่งที่น่าชื่นชมคือน้องไบเบิ้ล เด็กชายวัยเพียงห้าขวบ ชาวจังหวัดพิษณุโลก ร้องเพลงกับพ่อในร้านอาหารโดยคุณพ่อเล่นกีตาร์และน้องไบเบิ้ลร้องเพลง เพื่อหาเงินรักษาแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง และน้องชาย

วัย 3 เดือน http://www.youtube.com/watch?v=dSDeTkhidEM จนเป็นภาพที่ประทับใจแก่คนไทยทั่วประเทศ ทำให้คนไทยที่ใจบุญร่วมกันบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่น้องไบเบิลและครอบครัวเป็นเงินกว่าล้านบาท ทำให้บรรยากาศวันแม่ปีนี้มีความเข้มข้นมากขึ้น ทุกคนที่มีแม่อยู่ต้องกลับไปเยี่ยมแม่ ดูแลแม่อย่าให้อายน้องไบเบิลเด็กวัยเพียงห้าขวบก็แล้วกัน น้องไบเบิลได้เข้าร่วมกิจกรรมวันแม่แห่งชาติที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นและแม่ของน้องไบเบิลได้รับรางวัลคุณแม่ดีเด่น น้องไบเบิลหวังจะนำรางวัลที่ได้รับมามอบให้แม่ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแม่มีอาการทรุดหนัก น้องไบเบิลพยายามจับมือแม่แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากแม่และจากไปอย่างสงบท่ามกลางลูกน้อยทั้งสองคนและครอบครัวก่อนถึงวันแม่เพียงวันเดียว

เมื่อได้ฟังน้องไบเบิลร้องเพลงรักเดียวใจเดียว ของเสือธนพล ที่ร้องต่อหน้าศพของแม่ทำให้อดที่จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ลองคลิ๊กเปิดฟังดู

http://www.youtube.com/watch?v=_OZlS24T_5c

ทั้งสองข่าวเป็นข่าวที่สร้างความประทับใจ ปลาบปลื้มใจทั้งต่อตัวคุณแม่น้องฮีโร่และต่อน้องไบเบิลที่มีต่อคุณแม่ สุดท้ายนี้ก็ขอยกย่องคุณแม่น้องฮีโร่ ที่เป็นคุณแม่ฮีโร่ตัวจริง และน้องไบเบิลลูกยอดกตัญญูตัวจริงวัยเพียง 5 ขวบ และขอแสดงความเสียใจกับน้องไบเบิลและครอบครัวที่ได้สูญเสียคุณแม่ และขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป

จากใจป๋าเหรก

ขั้นตอนการดาวน์โหลด

เนื่องจากมีบางไฟล์ที่ไม่สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็ปไซด์ได้โดยเฉพาะไฟล์ที่มีนามสกุล .Zip .ppt โปรแกรมที่มีนามสกุล .exe จึงต้องเข้ามาโหลดที่ อีเมล์ของ Google การดาวน์โหลดต้องป้อนรหัสผ่านโดยทำตามขั้นตอนดังนี้



1.ช่องอีเมล์ พิมพ์ teacha001@gmail.com
2.ช่องรหัสผ่านพิมพ์ 25152515
3.คลิ๊กลงชื่อเข้าใช้

เลือก Save ถ้าต้องการบันทึก หรือเลือก Open ถ้าต้องการเปิดดู

แวดวงสาธารณสุข

สวัสดีครับพี่น้องชาวสาธารณสุขทุกๆท่าน ห่างเหินไปเสียนานรอว่าจะมีใครส่งเรื่องมาตีแผ่บ้าง ก็รอเสียนานนมแต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าจะแซวใครๆบ้างก็อย่าโกรธ อย่าถือสากันนะครับเพราะเราก็คนกันเองทั้งนั้น เย้าแหย่กันบ้างจะได้คิดถึงกัน

ช่วงเข้าพรรษานี้เห็นหลายๆท่านสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อเจียมตัว คง ลด ละ เลิก อบายมุขมุ่งแต่ อวั... เหมือนหมอสมบูรณ์ ทุกพรรษาแกจะงดเหล้าเข้าพรรษาทุกปี มิน่าหน้าตาถึงได้หล่อเหลามีบ้านหลายหลัง ค่ำไหนนอนนั่นได้สบายๆ ชาติก่อนคงทำบูญมาเยอะ ลด ละ เลิกอบายมุขบ้างก็ดีเหมือนกัน เพื่อสุขภาพทั้งกายและใจ คุณหมอดิเรกบอกว่าเข้าพรรษาเป็นเรื่องของพระของเจ้า เราเป็นปุถุชนคนธรรมดา แค่ศีลห้ายังลดไม่ได้เลย โดยเฉพาะศีลข้อที่หนึ่งถ้าพวกเราหมออนามัยไม่ทำรับรองไข้เลือดออกระบาดแน่นอนครับ เพราะว่าปีที่แล้วแกเคร่งศีลห้าไปหน่อยไข้เลือดออกบ้านฟ่อนเลยเยอะ

ปีนี้ไม่ถือไม่แถแล้ว ไข้เลือดออกเลยไม่ระบาด เอ้อก็จริงของแกน้อเหตุผลน่าเชื่อถือ หมอศักรินทร์ตั้งแต่ไปเมืองจีนมายังพูดกันไม่รู้เรื่องเลยเพราะพูดแต่ภาษาจีน เชี้ยงชุน กุนเชียง อะไรไม่รู้ของแก สงสัยถูกผีจีนเข้าต้องให้หมอบูรณ์ไล่ผีสะเดาะเคราะห์โดยใช้ติ่งหูสบัด งานนี้ผีจีนก็ผีจีนเถอะ เสร็จหมอบูรณ์เพราะแกได้อาจารย์ดีจากเณรแอ วันก่อนเจอหมอเบิ้มบอกว่ากำลังเข้าคอร์สเจ้าบ่าว ปลายปีมีข่าวดี พุงลดไปเยอะแล้ว เพิ่งไปตัดสูทเจ้าบ่าว บอกช่างว่าให้ลดเอวกางเกงอีกสองนิ้ว ช่างตัดเย็บ

บอกว่า"ไม่ได้พี่เดี๋ยวพี่จะใส่ไม่ได้นะ" หมอเบิ้มบอกว่า"ผมจะลดเอวของผมเอง" ลดไม่ได้แต่จำเป็นต้องลดเพราะสูทพี่ท่านราคาเฉียดหมื่น ถ้าใส่ไม่ได้ผมขอน๊า ช่วงนี้ ผ.อ.นกขยันทำมาหากินช่วยภรรเมียขายเครื่องกรองน้ำให้พี่เหรก พี่เบิ้มบอกว่าราคาพี่เศษเราพี่น้องกัน (ราคาพี่เศษเหมือนก๋วยเตี๋ยวหรือเปล่า ) นัดกับผมว่าจะไปสาธิตให้ดู ผมเลยบอกว่าขอผมทดลองใช้ซักปีหนึ่งก็แล้วกันถ้าใช้ดีก็จะซื้อถ้าไม่ดีก็จะเอาคืน รอตั้งหลายวันไม่เห็นแกมาอยากกินน้ำจากเครื่องกรองน้ำของแกอยู่เหมือนกัน

25 นี้หลายๆท่านได้มีโอกาสไปประชุมวิชาการของชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยที่จังหวัดอุบลราชธานี อย่าลืมของฝากมาให้คนทางบ้านก็แล้วกันไม่เหมือนอย่างหมอสราวุธ ไปคราวแล้วไม่ได้ซื้อของฝากอะไรมาให้ลูกชายแกเลยแวะซื้อของฝากให้ลูกชายที่เซเว่นใกล้ๆ สสอ.ว่านี่เป็นของฝากจากชลบุรี เห็นน้องแค๊มชอบอกชอบใจบอกว่าพ่อซื้อของฝากจากใต้มาให้ ไปอีสานคราวนี้ห้ามซื้อปลาร้าขึ้นรถก็แล้วกันเดี๋ยวแยกไม่ออกว่ากลิ่นปลาร้าหรือกลิ่นอะไรมันคุ้นๆ

พูดกันเป็นการเป็นงานบ้าง ช่วงนี้ใกล้ช่วงปลายปีงบประมาณแล้ว ยอมรับว่าปีนี้งานเยอะจริงๆทำแทบไม่ทันแต่ก็ไม่เป้นไรเพราะนี่คืองานของเรา หลายๆแห่งก็เร่งทำงานแข่งกับเวลาโดยเฉพาะ ท่านสยามเห็นทำงานหนักจนพุงหายไปหลายนิ้ว แอบบ่นอยู่เหมือนกันว่าเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้หยุดเพราะต้องเร่งทำผลงานโดยเฉพาะมาตรฐาน PCU ต้องผ่านปีนี้ให้ได้ เรื่องนี้ต้องปรึกษาป้าแหม่มเพราะพัฒนาสถานบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เข้า รพ.สต.ศรีหมวดเกล้าเมื่อไรนึกว่ารีสอร์ท ไม่สงสาร สอ.ขนาด 50 ตร.ม.อย่างเราบ้างเนาะเดินสวนแทบชนกัน

เห็นความตั้งใจของเจ้าหน้าที่ สสอ.เมืองเราช่วยกันแก้ไขข้อมูล JHCIS อย่างจริงจังบางคนทำงานจนถึงตีหนึ่งตีสอง บางคนตีสี่ ตีห้า โดยเฉพาะพี่อื๊ดโทกหัวช้างส่งเมล์ 18 แฟ้มมาเวลาตีหนึ่งครึ่ง ส่งมาสองครั้ง ครั้งแรกบอกว่าโทกหัวช้างใหม่ แกคงไม่พอใจแก้ไขได้เพิ่มอีก ส่งเมล์มาใหม่อีก บอกว่าโทกหัวช้างใหม่ล่าสุด บางแห่งก็บอกว่าใหม่สุดๆ เห็นทุกคนมีความตั้งใจผลที่ออกมาก็คงถูกใจทุกๆคน ได้เก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปกันทั้งนั้น

อย่าลืมติดตามเว็ปบอร์ดของหมอเกษตรของเรานะครับแกมักมีของดีมาฝากวันก่อนแกเอาเมล็ดถั่วฝักยาวมาให้ปลูกผมปลูกได้ 5 วันแล้วเจริญงอกงามดีฝักคงยาวเหมือนแกพูดจริงๆเห็นบอกว่าช่วงนี้มีพันธุ์ปลาทับทิม ใครอยากได้เปิดอ่านได้ที่ห้องสนทนานะครับ ใครมีอะไรดีๆเพื่อมาแลกเปลี่ยน หรือติชมได้นะครับยินดีรับฟังทุกคำชี้แนะสวัสดีครับ

ทฤษฏีลิง 3 ตัว

เราจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขได้บางครั้งเราควรทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้ยินบ้างก็น่าจะดี แต่ขึ้นชื่อว่าคนแล้วถ้าทำแบบนี้แล้วคงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวัน เพราะชอบสอดรู้ สอดเห็นในสิ่งที่เป็นความลับ สิ่งที่เป็นความผิดพลาดของคนอื่นอยู่เสมอๆเป็นกิจวัตร จนกลายเป็นความเคยชินแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว บางครั้งกลายเป็นภัยกับตัวเอง ลองมาใช้ทฤษฎีของขงจื้อ ซึ่งเป็นนักปราชญ์ นักปรัชญาของจีนยุคก่อนคริสศักราช เป็นทฤษฎีที่เรียกว่า "ทฤษฎีลิง 3 ตัว" ได้แก่

ลิงตัวที่ 1 ปิดหูหนึ่งหู คือ คนเราควรรู้จักควบคุมตนเองบ้างว่าสิ่งไหนที่ควรฟัง สิ่งไหนที่ไม่ควรฟัง ต้องรู้จักแยกแยะในสิ่งที่ตนเองได้ยินได้ฟังมา ต้องฟังหูไว้หู โดยใช้หลักการวิเคราะห์ด้วยเหตุด้วยผล มาประกอบเข้าด้วยกัน อย่าเชื่อในสิ่งที่ได้ยินทั้งหมด เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ได้

ลิงตัวที่สอง ปิดตาหนึ่งข้าง คือ รู้จักควบคุมการมองว่าอะไร บางครั้งควรมองในสิ่งที่ควรมอง และอย่าเชื่อในสิ่งที่เรามองเห็นทั้งหมด เพราะสิ่งที่เราเห็นมันก็ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด มองแล้วพิจารณาไตร่ตรองอย่าตัดสินคนจากสิ่งที่เห็น ดังมีคำกล่าวที่ว่า "นักปราชญ์จะไม่เห็นในสิ่งที่คนอื่นเห็น แต่จะเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น"

ลิงตัวที่สาม ปิดปากครึ่งปาก คือรู้จักการควบคุมการพูด ว่าสิ่งใดควรพูดสิ่งใดไม่ควรพูด การที่จะพูดอะไรออกมาที่ส่งผลกระทบต่อคนอื่นควรพิจารณาไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน บางครั้งคำพูดของเราอาจนำความเดือดร้อนต่อผู้อื่นได้ แล้วมันจะย้อนกลับมาทำลายตัวเราเองได้ิ เพราะฉะนั้นการที่เราจะพูดอะไรควรคิดพิจารณาให้ดีก่อนที่จะพูดออกไป

ทฤษฎีลิงสามตัวนี้มีความเชื่อว่าการเป็นคนที่ดี ต้องรู้จักควบคุมการฟัง การมอง และการพูด ซึ่งเปรียบเทียบได้กับลิงทั้งสามตัว ที่มีลักษณะแตกต่างกัน ลิงตัวเดียวไม่สามารถปิดหู ปิดตา ปิดปากในเวลาเดียวกันได้ เพราะมีเพียงสองมือเท่านั้น คนเราก็เช่นกันไม่มีใครสามารถทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันได้ ดังนั้นเราควรเลือกนำมาใช้ให้เหมาะสมกับ บุคคล เวลา และสถานที่ ที่สำคัญคือไม่ส่งผลกระทบ ส่งผลเสียหายกับคนอื่น และจะกลายเป็นบูมเมอแรงที่ส่งผลสะท้อนกลับมาสู่ตัวเอง ดังสุภาษิตที่ว่า "ปลาหมอตายเพราะปาก"

พลังความคิดด้านบวก

วิถีชีวิตของคนเราต้องเจอกับผู้คนอยู่มากมาย มากหน้าหลายตา ในชีวิตหนึ่งๆของคนหนึ่งๆ

ย่อมเจอะเจอคนที่ถูกอกถูกใจ จนกลายเป็นคนสนิท คนที่รู้ใจ เพราะมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน

เช่นบุคคลิกภาพ ความคิด ชอบสิ่งที่เหมือนๆกัน มีวิถีการดำเนินชีวิตคล้ายๆกัน ตลอดจนรสนิยม

เหมือนๆกัน เหตุความเหมือนต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากแรงดึงดูดทางด้านความคิด คนที่คิด

บวกจะดึงดูดคนที่คิดบวก คนที่คิดลบจะดึงดูดคนที่คิดลบเหมือนกันเข้ามา เช่น นักเรียนที่เรียน

หนังสือเก่งจะชอบคบกับคนที่เรียนหนังสือเก่งด้วยกัน นักเรียนที่เกเรจะชอบคบเพื่อนที่เกเรเหมือนๆ

กันคนที่ชอบดื่มเหล้าก็จะมีเพื่อนขี้เหล้าเหมือนกันดังคำกล่าวที่ว่า "ฝนตกขี้หมูไหลคนอะไรมาพบกัน"

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่าพลังความคิดด้านบวกดึงดูดพลังความคิดด้านบวกเหมือนกัน พลัง

ความคิดด้านลบจะดึงดูดพลังความคิดด้านลบเหมือนกัน คนที่ชอบคิดลบนั้นเวลาตนเองทำอะไร

ผิดพลาดขึ้นมามักจะชอบโยนความผิดให้แก่ผู้อื่่นอยู่เสมอ เพราะมีความคิดด้านลบในตัวเองเยอะ

ก็เลยปล่อยความคิดด้านลบให้กับผู้อื่นบ้างมิเช่นนั้นจะอึดอัด กระอักกระอวน กินไม่ได้นอนไม่หลับ

สำหรับคนที่ชอบคิดทางบวกเมื่อทำผิด จะยอมรับว่าตนเองผิด

เพราะมีบวกในตัวเองมาก เมื่อปล่อความคิดด้านบวกออกมามากเท่าไหร่พลังด้านบวก

ในตัวเองก็จะเพิ่มมากขึ้น ทำให้คนที่คิดบวกจะประสบผลสำเร็จในชีวิตที่สูง ส่วนคน

ที่คิดลบทำผิดแล้วยังไม่รู้สึกตัวว่าทำผิด ยากจะประสบผลสำเร็จ เพราะมองไม่เห็นจุด

ด้อยของตนเองเลย จึงทำให้ไม่เกิดการพัฒนาตนเอง มองเห็นแต่เงามืดที่ทำให้

มองไม่เห็นอะไรเลย

คนที่คิดลบจะไม่รู้ตนเองว่าคิดลบ เช่นคนที่เห็นแก่ตัวจะไม่รู้สึกว่าตนเองเห็นแก่ตัว แถมยังว่า

คนอื่่นเห็นแก่ตัวอีก ชอบเอาเปรียบผู้อื่นจนเป็นนิสัย ตรงกันข้ามกับคนที่คิดบวกจะให้ความรู้สึกกับคน

ที่คิดบวกเหมือนกัน เช่นคนที่ชอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เมื่อได้รับการช่วยเหลือเขาจะตอบสนองกลับในทาง

บวก และชอบกล่าวว่า ขอบคุณ อยู่เป็นเนืองนิจ ถ้าใครมีเพื่อนร่วมงานที่ชอบคิดลบอยู่เสมอ ไม่ต้อง

แปลกใจเลยว่าทำให้เราต้องพลอยอารมณ์เสียไปด้วย เพราะคนที่ชอบคิดลบจะมีพลังด้านลบในตัว

และเข้าไปเหนี่ยวนำคนรอบข้างแสดงความคิดเชิงลบออกมาโดยเราไม่รู้สึกตัว ถ้าใครมีเพื่อนร่วมงาน

ที่คิดบวกจะโชคดีหน่อย เพราะคนที่คิดบวกจะดูดซับความคิดด้านลบทำให้เรามีอารมณ์ดีขึ้น จนส่งผล

ให้อารมณ์ด้านลบของเราค่อยๆจางหายไป สำหรับคนที่พึ่งอกหักจะมีพลังความคิดด้านลบมาก ดังนั้น

อย่าพยายามมองหาคนรักใหม่ เพียงเพื่อต้องการประชดคนรักเก่า เพราะคุณจะมีโอกาสดึงดูดคนที่ไม่ดี

เข้ามาสู่ชีวิตของคุณเองสูงมาก จึงต้องอยู่อย่างสงบสักพัก รอให้สถานการณ์คลี่คลายจนทำให้เรารู้สึกดี

ขึ้นและพร้อมที่จะให้ความรักออกไป จึงค่อยหาคนมาดามหัวใจต่อไป สำหรับคนที่เป็นเซียนพนันจะรู้ดี

ว่าถ้าเหมื่อไหร่ตนเองหงุดหงิด หรือมีความคิดด้านลบเขาจะหยุดเล่นทันทีเพราะความคิดด้านลบจะดึง

ดูดส่วนที่ไม่ดีเข้ามา คนที่คิดบวกอยู่เสมอจะมองเห็นโอกาสซ่อนอยู่่ แม้แต่อยู่ในสถานการณ์ที่เป็นลบ

ก็ตาม เช่น วอลท์ ดิสนีย์ ช่วงชีวิตที่เขาเป็นหนุ่มมีชีวิตที่ตกต่ำเป็นอย่างมาก ต้องอาศัยการหลับนอนใน

โบสถ์ที่มีหนูอยู่ชุกชุม เขาต้องทนความรำคาญจากเจ้าหนูพวกนี้เป็นอย่างมาก และเก็บความรู้สึกนี้ไว้จน

เขามีโอกาสได้สร้างจินตนาการของตนเองจากสิ่งที่เขาเกลียดกลายเป็นมิกกี้เมาส์ที่โด่งดังไปทั่วโลก

เช่นเดียวกับอเลกซานเดอร์ เฟรมลิ่ง เขาเพาะเชื้อแบคทีเรียเพื่อศึกษาหายากำจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็น

สาเหตุให้คนทั่วโลกเสียชีวิตจากสิ่งมีชีวิตเล็กๆเหล่านี้ บังเอิญมีเชื้อราปลิวมากับอากาศปนเปื้อนกับ

เชื้อแบคทีเรียที่เขาเพาะพันธุ์อยู่ ทำให้เชื้อแบคทีเรียของเขาตายหมด เขากลับมาพิจารณาไตร่ตรองและ

พบว่า เชื้อราสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ จนเขาสามารถผลิตยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่าเพนนิชิลลิน

ได้เป็นผลสำเร็จเป็นประโยชน์อย่างเอนกอนันต์แต่มนุษยชาติ

สำหรับการนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานนั้น นักบริหารเก่งๆหลายๆคนจะนำความคิดด้านบวกมา

บริหารงาน โดยมองแต่ด้านบวกของลูกน้อง ถ้าผู้บริหารมองลูกน้องแต่ด้านลบ งานทุกงานย่อมไม่ประ

สบผลสำเร็จ จะเห็นว่าคนที่คิดบวกจะแสวงหาโอกาสอยู่เสมอ และเตรียมพร้อมเมื่อมีโอกาสมาถึง

คนที่คิดด้านลบจะรอให้โอกาสมาวิ่งชน เมื่อถึงเวลาจริงๆก็พลาด เพราะเตียมตัวไม่ทัน เนื่องจากมองลบ

จนคิดไม่ถึงบางครั้งความคิดบางอย่างดูเหมือนจะคิดบวก แท้ที่จริงเป็นลบ เช่นคิดว่าตนเองฉลาด ถ้าคิด

แบบนี้แสดงว่าตัวเองไม่ฉลาดอย่างที่คิด ชอบว่าคนอื่นเห็นแก่ตัวแต่แท้ที่จริงตนเองนั่นแหละที่เห็นแก่ตัว

ดังคำโบราณที่ว่า "ผีย่อมเห็นผีด้วยกัน" หากเราโกรธใครสักคนจงคิดถึงแต่ส่วนดีๆของเขา ในที่สุดความ

โกรธก็จะค่อยๆลดหายไปในที่สุด ิถ้ามีความคิดบวกก็จงคิดบวกต่อไป คนที่คิดบวกจะเห็นบวกซ่อนอยู่ใน

ส่วนลบ หรือจะเห็นจุดขาวในสีดำ แต่ถ้าคิดลบจะมองเห็นสิ่งไหนก็เป็นลบทั้งนั้นแม้ส่วนนั้นจะเป็นบวก

ก็ตาม

ชีวิตของคนเราไม่มีอะไรมากมาย เกิด แก่ เจ็บ แล้วก็ตาย เหมือนกันทุกคนเรามาสั่งสมความดีกันดีกว่า

มากกว่าสั่งสมทรัพย์สมบัติ อย่าเอาวัตถุภายนอกกายเหล่านี้มาเป็นตัวทำลายความเป็นมนูษย์ของเราเลย

เรามาเริ่มต้นจากความคิดด้านบวก ความคิดด้านบวกจะดึงดูดสิ่งที่เป็นบวกเข้ามาหาเราเอง เราเชื่อว่าทุกคน

ทำได้

มูชาชิ

เคล็ดลับความเป็นคน

"สร้างสุขด้วยสมอง" ถ้าเรามาแปลอีกที (ภาษาไทยของเราต้องแปลไทยเป็นไทยมันถึงจะเข้าใจยิ่งขึ้น) ถ้าจะบอกว่าคนที่ไม่มีความสุขคือคนที่ไม่มีสมอง ก็น่าคิดนะ เพราะประโยคๆนี้แหละที่เตะใจผม เราลองมาวิเคราะห์คนที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ว่าเป็นคนที่มีความสุขหรือไม่

1.ชอบตำหนิ ติเตียนผู้อื่นอยู่เนืองนิจ (ที่สุขเพราะได้ด่าว่าคนอื่น)คือใครทำอะไรก็ไม่ถูกใจทั้งนั้น ขวางหู ขวางตาตลอด ชอบคอยแต่จับผิดไม่เคย

จับถูกเสียที

2.เวลาคน

อื่นได้ดีกว่าตนจะไม่พอใจ(ที่สุขเพราะเห็นคนอื่นไม่ดี)คนกลุ่มนี้จะชอบมองเห็นแต่ความไม่ดีของคนอื่นแล้วนำมาเปรียบเทียบความดีที่มีอยู่อย่างน้อยนิดของตัวเอง

3.ชอบใช้อารมณ์ (ถ้าใครคิดว่าสุขต้องทดสอบ 2Q, 9Qเป็นการด่วน มิฉะนั้นจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่สามารถควบคุมไม่ได้) คือไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ เช่นถ้าใครพูดอะไรมาไม่

ถูกหูต้องรีบตอบโต้อย่าง เจ็บๆ หรือพูดจาทำนอง ส่อเสียด เสียดสี ประชดประชัน หรือเอะอะโวยวาย

4.ทำอะไรแล้วต้องหวังผล (มีความสุขจากการให้เล็กๆน้อยๆ) เช่น ใส่ซองทำบุญผ้าป่า เพื่อหวังว่าเกิดมาชาติหน้าจะได้ร่ำรวย หล่อๆ สวยๆ

5.ชอบอิจฉาริษยา นินทาว่าร้ายผู้อื่น (สุขที่ตนเองก็ไม่ตกข่าว) ประเภทที่ว่าความผิดของผู้อื่นยิ่งใหญ่กว่าขุนเขา สำหรับของตนเองแค่เศษผงธุลี

ุ6.ไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ (พวกวัตถุนิยม) เห็นของคนอื่นดีกว่าตนเองไม่ได้ ต้องรีบแสวงหาเพื่อเอามาแข่งขันประชันความโก้หรู ประเภทฉิบหายไม่ว่าขอเอาชื่อเสียงไว้ก่อน สิ่งของฟุ่มเฟือยต่างๆต้องแบรนด์เนม

มีระดับ

7.อื่นๆอีกมากมาย

ลองมาวิเคราะห์คนดังต่อไปนี้ว่ามีความสุขหรือไม่

1.เห็นความผิดของคนอื่นแล้วนำมาเป็นบทเรียนสอนใจตนเอง ไม่สนใจกับความผิดเล็กๆน้อยๆของผู้อื่น ไม่ว่ากล่าวซ้ำเติม

2.ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี มองแต่ด้านดีของผู้อื่น เห็นใครแล้วจะยกย่องให้เกียรติ

3.ควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดี มีสมาธิ สติ และเกิดปัญญา เมื่อโกรธก็รู้ว่าตนเองโกรธและสามารถควบคุมความโกรธได้ เพราะไม่มีใครที่มีความสุขจากการโกรธ (ถ้าใครโกรธแล้วมีความสุขก็น่าจะพิจารณาตนเองว่ามีจิตใจปกติหรือเปล่า)

4.ทำอะไรแล้ว ทำด้วยความเต็มใจ ไม่หวังผลตอบแทน ไม่คิดว่าทำดีแล้วต้องได้ดี แต่จะคิดว่าทำดีแล้วได้ความสุข

5.ยกย่องให้เกียรติผู้อื่น พูดถึงแต่ด้านดีของคนอื่น ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

6.พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ รู้จักเพียงพอ ใช้ชีวิตแบบพอเพียง เห็นวัตถุเป็นเพียงสิ่งของที่อำนวยความสะดวกสะบายไม่ได้เป็นทาสของวัตุ มองเห็นคุณค่าของความเป็นคนมากกว่าวัตถุสิ่งของ

7.เห็นว่าไม่มีสิ่งไหนมีค่ามากกว่าชีวิต เพราะทุกชีวิตมีเลือด มีเนื้อ มีความรู้สึก เรารักตัวเองอย่างไรคนอื่นก็ต้องมีสิทธิรักตัวเองเฉกเช่นเดียวกับเรา

สมองนี่เองที่ทำให้คนเราแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น เราสามารถเอาชนะสิ่งมีชีวิตอื่นๆได้ เลยทำให้เกิดธรรมชาติของความเป็นคนที่ชอบเอาแต่ชนะ มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คนเราไม่สามารถเอาชนะได้คือ ชนะธรรมชาติ และจิตใจของตนเอง คนเราก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เราต้องใช้ชีวิตให้กลมกลืนกับธรรมชาติในเมื่อเราไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ เมื่อเข้าใจธรรมชาติเข้าใจตนเองเราถึงจะมีความสุขอย่างแท้จริง ไม่ใช่ความสุขที่เกิดชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็นสุขที่ยั่งยืนซึ่งเป็นสุขที่เกิดจากการใช้สมอง สมองนี่เองเป็นตัววัดคุณค่าของความเป็นคนได้อย่างชัดเจน การให้เกียรติ การให้อภัย การเข้าใจเห็นอกเห็นใจ รักชีวิตอื่นเฉกเช่นกับชีวิตตนเอง

ใครรู้เคล็ดลับความเป็นคนก่อน คนๆนั้นย่อมได้เปรียบเพราะมีความสุขก่อน เป็นคนที่มีจิตใจของความเป็นคนก่อน เป็นคนที่มีความสุขที่ไม่ได้มาจากการอยู่เหนือคนอื่น ความสุขที่ไม่ได้มาจากการมีชื่อเสียง ความสุขที่ไม่ได้มาจากเกียรติยศ แต่เป็นความสุขที่เกิดจากใจที่สร้างขึ้นได้ด้วยสมอง

ทัวร์โซนเสด็จ

วันนี้ได้มีโอกาสได้มาติดตามเยี่ยมโซนเสด็จเพราะพี่นงค์ทำให้ผมได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามมาด้วย น้องบีรับอาสาเป็นสารถี ทั้งเป็นอาจารย์ ยอมรับว่าวันนี้อาจารย์ให้เกียรติพี่นงค์กับผมมาก โซนเสด็จมีทั้งหมด 6 สอ.ด้วยกันคือ สบมาย ทรายทอง หัววัง เสด็จ นิคม 16 และ สอ.2 ตำบลคือ จำค่า รับผิดชอบทั้งตำบลเสด็จและบ้านแลง ตอนเช้าได้ไปเยี่ยมเยือน สอ.สบมายได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ ทุกคนหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสบ่งบอกถึงมีความสุขกับการทำงาน บอกว่าอยากอยู่ที่นี่นานๆ ถึงแม้จะไกลแต่ไกล้คุณธรรม ผมเลยถึงบางอ้อว่าทำไมหมอปัดถึงไม่ยอมย้าย เพราะใกล้คุณธรรมนั่นเอง ที่มาสบมายก่อนเหตุผลก็เพราะ ทาง สอ.มีปัญหาเรื่องระบบ LAN มีปัญหา ทางคณะเราเลยจัดให้ไม่มีปัญหาเพราะงานของคุณคือผลงานของพวกเราทั้งอำเภอ เราทุกคนต้องช่วยกัน ทำหน้าที่เป็นข้าของประชาชน ให้สมศักดิ์ศรีกับความเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ช่วงบ่ายทั้ง 5 สอ.นำทีมโดยประธานโซนเสด็จพี่ต้อยตีวิดควงคู่มากับหมอแหม่มคู่รักหมอมีศักดิ์ ตามมาด้วยหมอมีศักดิ์ สอ.หัววัง พี่เยาว์นิคม 16 พี่โอเล่ รพ.สต.เสด็จ และเจ้าภาพหมอถาวร หมอวันเพ็ญและน้องอ้อม เปิดแอร์เย็นฉ่ำรอต้อนรับ ใครมาโซนเสด็จแล้วทุกคนต้องมีความรู้สึกว่าอบอุ่น จนรู้สึกว่าอบอ้าว จนไม่อยากบรรยายเดี๋ยวใครหลายคนจะมาหาความอบอุ่นที่นี่ เลยไม่อยากบรรยายต่อ ทำให้ผมต้องรบกวนเจ้าภาพที่ต้องทำงานจนเลยเวลาราชการแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หลายคนคิดว่าพวกนี้พูดคุยกันนานต้องนินทาว่าร้ายใครต่อใครเป็นแน่

แต่รับรองครับเพราะหมอต้อยบอกว่าไม่มีประโยชน์ เรามาทำประโยชน์ให้แก่ สิทธิ UC และ Non Uc ดีกว่าแถมได้เงิืนด้วย" แบบว่าประชาชนต้องมาก่อน" ชาวบ้านเลยฝากมาบอกว่า "ขอบคุณครับเจ้านายๆๆๆๆๆๆๆ"

มาเขียนบล็อกเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเถอะ

ข้อดีของบล็อก

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้มีอยู่หลายช่องทาง จุดแข็งในปัจจุบันคือเรามีเทคโนโลยีต่างๆมากมาย ในยุคที่การสื่อสารไร้พรมแดน เป็นความล้ำหน้าของเทคโนโลยีที่ก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง เราไม่จำเป็นต้องตามให้ทันกับเทคโนโลยีเสียทุกเรื่อง อยู่ที่เราว่าเราจะเลือกเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์กับเราได้อย่างไร บล็อก ก็เป็นเว็ปไซด์อีกชนิดหนึ่งที่สนองตอบต่อการเรียนรู้ ปัจจุบันบล็อกเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ไม่ยุงยากเหมือนกับโปรแกรมเขียนเว็ปไซด์อื่นที่มืออาชีพเขาทำกัน มีบล๊อกที่เปิดใช้ฟรีอยู่หลายค่าย อย่างที่ผมใช้เขียนอยู่นี้ก็เป็นบล็อกฟรีของค่าย google

มาพูดกันง่ายๆบางครั้งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคคลอาจเป็นเรื่องยากในการที่เราจะเจอคนที่มีความรู้หรือประสบการณ์จริง บางครั้งเราต้องลงทุนสูงในการจัดการอบรมสัมนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เช่นต้องเสียค่าวิทยากร ค่าเดินทาง ค่าอาหาร จัดหาสถานที่ และอื่นๆอีกจิปาถะ สรุปง่ายๆคือเรามีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา ประหยัดงบประมาณ

เรามาใช้บล็อกมาเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้เราดีกว่า

1.เป็นเครื่องมือในการสร้างความรู้

2.เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ความรู้

3.เป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

4.เป็นเครื่องมือในการค้นหาความรู้

5.เป็นเครื่องมือในการแยกแยะความรู้ เป็นเครื่องมือในการสร้างลำดับความน่าเชื่อถือและความและความถูกต้องของความรู้

หลายๆท่านมีความรู้แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเผยแพร่ให้ใครเพราะไม่เห็นมีใครมาติดต่อ สอบถาม หรือคนอื่นเขาไม่รู้ว่าเรารู้เรื่องอะไร เลยไม่มีใครมาเรียนรู้ด้วย แต่ในแหล่งความรู้ที่ใหญ่ที่สุดคือในอินเทอร์เน็ต เป็นแหล่งของคลังความรู้มหาศาลที่คนทั่วโลกค้นหาในลำดับต้นๆ เพราะเข้าถึงง่าย สะดวก ประหยัด มีความหลากหลาย หลายๆท่านอาจเป็นอาจารย์ของอีกหลายๆคนที่มีความสนใจเหมือนเดียวกับเรา เห็นประโยชน์อย่างนี้แล้วเราเรียนรู้ร่วมกันกันเถอะ

1.การสมัครเพื่อเขาใช้งาน

2.วิธีการสร้างบล็อก