วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

ชีวิตต่างกันที่ความคิด


เกิดเป็นคนทั้งที ทำไมชีวิตมันช่างยุ่งยากเสียเหลือเกิน รู้อย่างนี้เกิดเป็นไส้เดือนดีกว่า เบ็ดเสร็จในตัวเองหมด (ไส้เดือนมี 2 เพศ ในตัวมันเอง) ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพระอริยสงฆ์ ถึงได้บำเพ็ญบุญเพื่อไม่ให้กลับมาเวียนว่ายตายเกิด ในชีวิตมนุษย์อีก ที่มันยุ่งยาก วุ่นวาย ก็เพราะอะไรละเพราะตัวเราเองทั้งนั้น


คนเรามักชอบวุ่นวายกับตัวเองยังไม่พอเสือกไปวุ่นวายกับชีวิตคนอื่นอีก มักอยากให้คนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ แต่นับว่าโชคดีมากที่คนอื่นไม่เปลี่ยนตามอย่างที่เราต้องการ เพราะถ้าคนอื่นเปลี่ยนอย่างที่เราต้องการ คนอื่นก็คงดิบดีกันหมด ยกเว้นตัวเราคนเดียว มีหลายคนบ่นเรื่องของเพื่อนร่วมงานว่าคนนี้ขี้เกียจ มาทำงานสายแทนที่จะรีบทำงานยังมานั่งกินกาแฟอีก ชอบหลบไม่ค่อยทำงาน เวลามีงานส่วนรวมมาให้ทำก็ปล่อยให้เราทำคนเดียว เวลาหัวหน้าไม่อยู่ มันก็แอบกลับก่อนเวลา พวกนี้มันเห็นแก่ตัวชัดๆ ถ้าใครเจอปัญหาแบบนี้ก็คงหนักอกหนักใจ เราลองมาเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ และกลับถามตนเองว่าที่เราทำงานคนเดียว มาก่อนกลับช้า เราดีกว่าเขาเราเป็นคนดีไหม? เพราะอะไรหรือที่คิดว่าเราเป็นคนดี ที่เราเป็นคนดีได้เพราะเราอยู่ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดี และถามตนเองอีกว่าเราอยากทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่ดีกว่าเราไหม? ทุกคน
ก็อยากได้ แต่ถ้าเราได้เพื่อนร่วมงานที่ดีกว่าเราหมดแสดงว่าหน่วย
งานของเรามีคนที่ไม่ดีที่สุดคือเราเอง จริงไหม?


การที่เรามีเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดี จะทำให้เราดูดีขึ้น
การที่เรามีเพื่อนร่วมงานที่ไม่เก่ง จะทำให้เราดูเก่งขึ้น
ถ้าเราคิดไม่เป็น เราจะรังเกียจเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดี ขี้เกียจ เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ แต่ถ้าเราคิดเป็น เราจะไม่รังเกียจคนพวกนี้ เพราะมีคนพวกนี้จึงทำให้เราดูดีขึ้น และมีค่ามากขึ้น


คนเราส่วนใหญ่ในโลกนี้ดำเนินชีวิตโดยไม่ได้คิดอยู่ไปวันๆตามความรู้สึก ส่วนใหญ่มักจะทำในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ เช่น ขณะที่เรากำลังขับรถอยู่ มีคนมาบีบแตรรถไล่หลังเรา เราชอบไหม? ทุกคนต้องตอบว่าไม่ชอบ และถามกลับว่า ตัวเราเองเคยบีบแตรใส่หลังรถคนอื่นหรือเปล่า ทุกคนที่ขับรถต้องเคย และตอบว่าก็ต้องบีบแตรไล่นะสิเพราะมันขับช้า แถมยังขับคร่อมเลนอีกต่างหาก ถ้าไม่บีบแตรแล้วรถที่ซื้อมามีแตรเอาไว้ทำไม?
เราลองมาคิดดูว่าที่เราบีบแตรใส่รถคันอื่นเพราะอะไร และที่เขาบีบแตรใส่หลังเราเพราะอะไร ก็คงเหตุผลเดียวกันกับเรา เราลองมาคิดใหม่ดูว่าการที่เขาบีบแตรใส่เราแสดงว่าเรากำลังทำผิด หรือขับไม่มีมารยาท ถ้าเขาบีบแตรใส่เราแล้วเขาขับแซงขึ้นไป เราควรลดกระจกลงและยิ้มให้เขาและกล่าวขอบคุณที่ช่วยเตือนเราไม่ให้ขับรถผิดกฏจราจร อารมณ์ของเราก็จะเย็นลงใช้ถนนร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่คนเรามักจะเป็นกันคือมีความลำเอียง 2 มาตรฐาน แสดงว่าการที่คนเรามี 2 มาตรฐานเป็นกันทุกคน ไม่ต้องกล่าวโทษคนอื่นว่ามี 2 มาตรฐาน ยกตัวอย่างเช่น หมาเรากัดกับหมาข้างบ้านเราจะตีหมาตัวไหน ต้องตอบว่าตีหมาข้างบ้าน หมาที่เราเลี้ยงกัดลูกเรา เราตีจะตีใคร ก็ตีหมานะซิ เวลาเราไปซื้อเสื้อผ้าก็จะไปลองเสื้อผ้าที่ห้องลอง พอใส่ไม่ได้ก็บอกว่าเสื้อตัวเล็กไป แต่ทำไมไม่โทษตัวเองว่าเราตัวใหญ่ขึ้น ถ้าเสื้อมันพูดได้มันก็จะเถียงว่า "อย่ามาโทษกูว่ากูตัวเล็ก มึงนั้นแหละที่ใหญ่ ตัวยังกับพะยูน แทนที่จะหยิบ XXL เสือกมาหยิบเบอร์ S แล้วมาว่ากูตัวเล็ก" นี่แหละคน เวลาทำผิดมักไม่เคยโทษตัวเองเลย
คนเราทุกคนมีเวลาในหนึ่งวัน 24 ชั่วโมงเหมือนกันแต่เสียดายเวลา 24 ชั่วโมงเหลือเกินที่เรามักเสียเวลา คิดแต่เรื่องของคนอื่นตลอดเวลา ทำไมเราไม่เอาเวลามาคิดพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเรา ชีวิตของเราน่าจะดีกว่านี้ มีความสุขกว่านี้ แต่ช่างมันที่ผ่านมาปล่อยให้มันผ่านไป เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ แต่เวลาที่เหลืออยู่ต่อนี้ไปเราสามารถกำหนดชะตาชีวิตของเราเองให้ดำเนินชีวิตไปอย่างถูกต้องและมีความสุขได้ ถ้าเราเปลี่ยน เปลี่ยนความคิด และทำ ชีวิตเปลี่ยนแน่นอน


มีชายคนหนึ่งถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเพราะฆ่าภรรยาตนเอง สาเหตุที่ฆ่าภรรยาเพราะภรรยามีชู้ ถ้าคนที่คิดเป็นเมื่อรู้ว่าภรรยามีชู้ก็จะบอกเลิกแถมข้าวสารอีกคนละกระสอบ และหาเมียใหม่ที่ดีกว่า แต่ที่ต้องติดคุกเพราะยอมให้ชู้และเมียเลวๆมากำหนดชะตาชีวิตของตนเอง ที่ทำให้บรรดาลโทษะ และฆ่าภรรยา ตัวเองต้องมาติดคุกตลอดชีวิต ฉะนั้นเราไม่ควรให้คนเลวๆมากำหนดพฤติกรรมของเรา
"คิดให้เป็น ชีวิตเย็นสบาย"

เรียบเรียงโดย สมานะ
ขอขอบคุณหนังสือ ฮาสุดขีด อาจารย์ พิพิธ พุ่มแก้ว เขียนโดย สมคิด ลวางกูร ที่ทำให้คิดเป็น